“ไม่อดทน มั่นใจเกินไป เปลี่ยนงานบ่อย”

คำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นคำพูดที่คน Gen อื่นๆกล่าวถึง Generation Y  ซึ่งมักถูกพูดถึงจากผู้ที่เคยทำงานด้วยว่าเป็นกลุ่มที่ทำงานด้วยได้ยากเหลือเกิน เนื่องจากลักษณะนิสัยเฉพาะกลุ่มที่พร้อมแสดงความคิดเห็นเสมอ และมีความมั่นใจในตัวเองสูง แถมยังถูกจัดว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความภักดีต่อองค์กรค่อนข้างน้อย เปลี่ยนงานบ่อยอีกด้วย อีกทั้งอนาคตอันใกล้ยังมี Generation Z ที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งลักษณะนิสัยเฉพาะกลุ่มนั้นก็มีความแตกต่างกันไป แต่ด้วยพลังทางความคิดอันเต็มเปี่ยม มุมความคิดสร้างสรรค์ พร้อมด้วยไฟในการทำงานที่ลุกโชนได้ง่ายๆ ก็ทำให้ยากจะมองข้ามคนในยุค Gen Y และ Z ไปได้

จากหลายๆผลงานวิจัยทั้งของไทยและต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของคนแต่ละ Gen ในหลากหลายมิติ เช่น ทัศนคติต่อการทำงาน ไลฟ์สไตล์ การให้ความสำคัญกับชีวิตส่วนตัว แรงจูงใจ และอื่นๆ ซึ่งสามารถสรุปคร่าวๆได้ตามรูป

นอกจากองค์กรใหญ่ๆให้ความสำคัญกับคน Gen Y แล้ว Gen Z ซึ่งกำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะมีความแตกต่างจากทุกๆ Gen และปัญหาช่องว่างระหว่างวัย (Generation Gap) ที่ตามมา ซึ่งส่งผลต่อการทำงานร่วมกัน เป็นความจำเป็นที่หัวหน้างานต้องเตรียมรับมือและทำความรู้จักกับทั้ง 2 Gen ให้มากที่สุด เพื่อดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัว Gen Y & Z ออกมาใช้และบริหารงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อีกทั้งยังพบว่า “กว่า 70% ของคน Gen Y ให้ความเห็นว่าการตัดสินใจลาออกเป็นผลมาจาก มีปัญหากับหัวหน้างาน ไม่ว่าจะเป็นการไม่ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้างาน การสอนงาน การมอบหมายงานของหัวหน้างาน” จากข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า หัวหน้างานมีความสำคัญมากต่อการตัดสินใจว่าจะทำงานในองค์กรนี้ต่อไปหรือไม่ ดังนั้นหัวหน้างานต้องทำความเข้าใจ เรียนรู้ในเชิงลึกเรื่องความแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ รวมถึงการปรับตัว บริหาร และรับมือคน Gen Y& Z

ต้องการข้อมูลหลักสูตร Unlocking Gen Y & Z CODES บริหารอย่างไรให้โดนใจคน Gen Y & Z เพิ่มเติม คลิกที่นี่